Thursday, September 18, 2008

แม่น้ำมูน

แม่เมือง ม้วยมรณ์
แม่มูนมิ่งเหมือนแม้น แม่เมือง
หล่อเลี้ยงลูกหลานเรือง ล้นหลาม
เขื่อนขึ้นขวางโขดขอด ขุ่นข้น
แม่มูนมาหม่นหมอง แม่เมือง ม้วยมรณ์

ปากมูน ปากแม่
ปากมูนเหมือนปากแม่ ปากมั่ง ปากมี
ปากป้อนปราณปรานี ปกป้อง
ปราชญ์ปิดปากเปลี่ยนแปลง ปากเมือง
ปากแม่แปดเปื้อนมล ปากหม่น ปากหมอง

แม่มูน
ทอดสายยาว จากป่าเขา เป็นลำห้วย ระรินรวย สู่ธารฉ่ำ ลำน้ำไหล
เลียบลัดเลาะ เซาะแผ่นดิน ถิ่นใกล้ไกล เป็นแม่ใหญ่ เป็นหัวใจ ให้ชีวี
แม่น้ำมูน บุญคุณแม่ แผ่ไพศาล เลี้ยงลูกหลาน เติบโตใหญ่ ไปทุกที่
ทั้งผู้ว่าฯ นายกฯ รัฐมนตรี ล้วนโตจาก แม่คนนี้ แม่ลำมูน
แล้วสิ่งใด สนองใน คุณของแม่ มองเป็นแค่ ลำน้ำใหญ่ ไม่สิ้นสูญ
สวาปาม น้ำอุดม ดินสมบูรณ์ รีดเลือดมูน แปลงเป็นไฟ ไม่ใยดี
แม่กระหาย กายบอบช้ำ ระกำหนัก ด้วยเขื่อนยักษ์ กักน้ำไว้ ในทุกที่
กินไม่ได้ แม่ผ่ายผอม ทุกเดือนปี ไร้เรี่ยวแรง เลี้ยงชีวี ที่รอคอย
มือตีนชา ตาพร่ามัว นอนตัวสั่น ใจรั่วลั่น ลิ้นเอ่ยเสียง สำเนียงอ่อย
บอกลูกหลาน วงศ์วาน อย่างเลื่อนลอย “อย่าท้อถอย แม่จะคอยเลี้ยง เลี้ยงครอบครัว”
หยดน้ำใส ไหลจากตา ฟ้าอ่อนแสง มือไร้แรง เอื้อมออกไป หมายลูบหัว
ฟ้ามืดพลัน มิได้ทัน แตะต้องตัว ลูกหลานทั่ว ระงมไห้ อาลัยมูน
ขอร่างนี้ เป็นเพียงร่าง ทางความคิด ขอชีวิต แม่เอาไว้ อย่าให้สูญ
ขอให้แม่ กลับเป็นแม่ ที่สมบูรณ์ ขอพลัง ลูกหลานมูน เข้าหนุนนำ
“ ด้วยสัญชาติญาณของความเป็นแม่ ย่อมรักลูกทุกคน ไม่ว่าจะเป็นลูกของตนหรือลูกคนอื่น แล้วจะมีลูกสักกี่คนที่รักในความเป็นแม่ที่ไม่ใช่แม่ของตน ผมเองก็ได้ชื่อว่าเป็นลูกเพียงแต่ไม่ใช่ลูกแม่มูน”
ตึกขาว
12 ก.ค 47
2.45 น.

No comments: